วิธีขอคืนภาษี: สาระสำคัญที่คุณควรรู้

วิธี ขอ คืน ภาษี: คู่มือแบบละเอียดเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ใช้บริการ

หากคุณเป็นคนที่ได้ชำระภาษีในปีที่ผ่านมาและต้องการขอคืนเงินภาษีที่คุณสามารถขอคืนได้ ข้อควรระวังก็คือคุณจะต้องทำตามกระบวนการเพื่อให้ได้รับเงินเรียบร้อยและไม่พลาดใดๆ ซึ่งบทความนี้จะพาคุณไปสู่วิธีการขอคืนเงินภาษีอย่างละเอียดเพื่อให้คุณเข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้องและสามารถทำได้อย่างเป็นระบบ

วิธีการขอคืนเงินภาษีมีหลายขั้นตอนที่คุณต้องใช้ การทำรายงานการเสียภาษีจะต้องส่งให้กับกรมสรรพากรและการพิจารณาจะต้องอยู่ในกระบวนการที่ถูกต้องเพื่อให้คุณได้เงินคืนภาษีที่คุณสามารถขอได้ นี่คือวิธีการละเอียดของกระบวนการขอคืนเงินภาษีในประเทศไทย:

1. หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่ทำธุรกิจ คุณสามารถใช้ระบบ e-filing ของกรมสรรพากรได้ และสามารถตรวจสอบเอกสารที่ใช้เสียภายในระยะเวลาที่กำหนด

2. หากคุณเป็นนิติบุคคล คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มที่ใช้ในการขอคืนเงินภาษีและส่งให้กับกรมสรรพากรพร้อมกับเอกสารประกอบ

3. การอ้างถึงเอกสารประกอบที่สำคัญมีรายการดังต่อไปนี้:
– รายรับและรายจ่าย: คุณจำเป็นต้องแยกแยะรายรับและรายจ่ายในขณะที่คุณสร้างรายงานการเสียภาษี เอกสารประกอบเช่นใบเสร็จรับเงิน ใบเสร็จรับคืน หรือใบเสร็จรับการชำระเงินอื่นๆ ตามกฎหมาย คุณควรเก็บรักษารายละเอียดดังกล่าวไว้เพื่อนำมาจัดทำรายงาน
– สูตรผู้บริหารและผู้ถือหุ้น: หากคุณเป็นเจ้าของกิจการต้องระบุตำแหน่งประธานบริษัทหรือสมาชิกในสภาองค์กรและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในกฏหมาย
– แบบฟอร์มการกรอกข้อมูลเพิ่มเติม: หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเอกสารคุณสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

4. หลังจากที่คุณได้รวบรวมและกรอกแบบฟอร์มแล้ว คุณจะต้องส่งเอกสารทั้งหมดให้แก่กรมสรรพากร สามารถส่งหรือทำการยื่นเอกสารผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้หากคุณใช้ระบบ e-filing

5. เมื่อกรมสรรพากรได้รับเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วน ทีมงานจะทำการตรวจสอบคุณภาพของเอกสารในระยะเวลาที่กำหนด และหากเอกสารของคุณไม่มีปัญหาอะไรทีมงานจะอนุมัติให้คุณเข้าถึงเงินเรียบร้อยและทำการชำระเงินคืนภาษีให้กับคุณ

6. หลังจากที่คุณได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตรวจสอบผลการคืนภาษีได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rd.go.th- e-refund สอบถามการคืนภาษี คุณสามารถตรวจสอบยอดเงินที่คืนโดยระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขการแบ่งทรัพย์สิน หรือหมายเลขการรับรองภาษี หากคุณกำลังรอการคืนเงินภาษีในปีที่มาต่างกัน คุณสามารถใช้หมายเลขการคืนเงินภาษีในการตรวจสอบสถานะของเงินเอง

FAQs:

1. ได้เงินภาษีคืนเท่าไหร่ เช็คยังไง?
คำตอบของคำถามนี้อยู่ในเว็บไซต์ www.rd.go.th- e-refund สอบถามการคืนภาษี โดยให้คุณกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขการแบ่งทรัพย์สิน หรือหมายเลขการรับรองภาษีเพื่อตรวจสอบยอดเงินที่คืนไว้เท่าไหร่

2. ตรวจสอบคืนภาษีว่าได้รับหรือยังไง?
คุณสามารถตรวจสอบสถานะการคืนเงินภาษีได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rd.go.th- e-refund สอบถามการคืนภาษี โดยใส่หมายเลขการคืนเงินภาษีของคุณ

3. ขอคืนภาษีในปี 2565 ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ในการขอคืนเงินภาษีในปี 2565 คุณต้องกรอกแบบฟอร์มและส่งให้กับกรมสรรพากรพร้อมกับเอกสารประกอบตามคำแนะนำที่กรมสรรพากรมีคำแนะนำ

4. ตรวจสอบคืนภาษีปี 2565 จากแหล่งใด?
คุณสามารถตรวจสอบสถานะการคืนเงินภาษีในปี 2565 ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rd.go.th- e-refund สอบถามการคืนภาษี ซึ่งจะแสดงยอดเงินที่คืนและข้อมูลเกี่ยวกับยอดเงินคืนของคุณ

5. ขอคืนภาษีในปี 2566 ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ขั้นตอนในการขอคืนเงินภาษีในปี 2566 เหมือนกับการขอคืนเงินภาษีในปี 2565 คุณต้องกรอกแบบฟอร์มและส่งที่งานเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรพร้อมกับเอกสารประกอบตามคำแนะนำที่ได้รับจากกรมสรรพากร

6. ตรวจสอบสถานะภาษีได้อย่างไร

กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนเงินภาษี ภายใน 3 เดือน กรณีมีเอกสารชัดเจนแสดงว่า ได้มีการเสียภาษีไว้เกิน ผิด ซ้ำหรือไม่มีหน้าที่ต้องเสีย นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอคืนเงินภาษีด้วยแบบ ภ.ง.ด.90/91 ที่แจ้งความประสงค์ขอคืนเงินภาษี หรือแบบ ค.10.วิธีตรวจสอบสถานะของการคืนภาษี

ทั้งนี้ท่านสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานะในเว็ปไซต์ของกรมสรรพากรที่ https://rdserver.rd.go.th/ แล้วคลิกที่เมนูบริการ ตรวจสอบสถานะการคืนภาษีและนำส่งเอกสาร ภ.ง.ด.90/91 ได้เลย หลังจากคลิกเข้ามาจะพบหน้า “สอบถามข้อมูลการคืนภาษี” เพียงคลิก My Tax Account.ท UU. BC ค.1 Page 2 การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทำได้แบบใดบ้าง ขอคืนเป็นเครดิต (ขอคืนด้วยแบบ ภ.พ.30) > สามารถยกไปใช้ในเดือนภาษีถัดไปได้ทันที 2 ขอคืนเป็นเงินสด (ทำได้ 2 กรณี) 2.1 ขอคืนด้วยแบบ ภ.พ.30 > ยื่นแบบ ภ.พ.30 ปกติ มีภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย > ยื่นแบบ ภ.พ.30 เพิ่มเติม และมีภาษีต้องขอคืน

แบ่งปัน 40 วิธี ขอ คืน ภาษี